***FTTH (Fiber To The Home)
Fiber to the Home คือระบบเส้นใยแสงที่จะทำการส่งผ่านข้อมูลจาก Central Office หรือชุมสายของผู้ให้บริการไปยังบ้านเรือนของผู้ใช้บริการ โดยศักยภาพตามมาตรฐานของ Fiber to the Home ใหม่ล่าสุดที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันนี้ คือสามารถส่งข้อมูลไปถึงบ้านของเรา และส่งจากบ้านของเราไปยังชุมสายได้ความเร็วมากที่สุดถึงระดับ 2.5 Giga-bit per second (Gbps) หรือประมาณ 2,500,000,000 บิต / วินาที ถ้าจะให้เห็นภาพคือ ระบบบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตที่เราใช้อยู่ตามบ้านทุกวันนี้คือ ADSL อย่าง High speed Internet ที่บอกว่าความเร็ว 1 Mbps นั่นประมาณ 1,000,000 บิต / วินาที ก็จะเห็นว่า Fiber to the Home เร็วกว่าถึง 2,500 เท่า แล้วอย่างความเร็วของ High speed Internet ผ่านระบบ ADSL นั้น ในส่วนความเร็วของการ Upload นั้นจะต่ำกว่าความเร็วของการ Download แต่ถ้าเป็น Fiber to the Home ทั้ง upload download ความเร็วมากที่สุดจะเท่ากันคือ 2.5 Gbps นอกจากนั้น ADSL นี่สำหรับบ้านที่อยู่ไกลจากชุมสายมากจะได้ความเร็วน้อยลงไปอีก เนื่องจากใช้ข้อมูลที่อยู่ที่ความถี่สูงไม่สามารถวิ่งผ่านสายโทรศัพท์ธรรมดาได้ระยะทางไกล โดยทั่วไปความเร็วของ ADSL จะพอรับประกันได้ในระยะไม่น่าจะเกิน 5 กิโลเมตร ฉะนั้นถ้าบ้านใครไกลจากชุมสายออกไปเกิน 5 กิโลเมตรก็จะใช้ความเร็วได้ไม่เต็มที่ แต่ Fiber to the Home จะรองรับระยะการส่งข้อมูลได้ไกลถึง 20 กิโลเมตรโดยความเร็วไม่ตกลง”
ความต้องการของการสื่อสารข้อมูลในตลาดบ้านที่อยู่อาศัยนั้นสูงขึ้น เริ่มต้นจาก Dial up , DSL Services และบริการอื่นที่ส่งถึงลูกค้าโดยตรง ความจุของช่องสัญญาณใน DSL ไม่เพียงพอกับความต้องการในปัจจุบัน เนื่องจาก Application ใหม่ ๆ ต้องการ Bandwidth สูง และต้องการ Bit Rate คงที่ จึงมีการพัฒนา High Bandwidth ให้กับลูกค้าที่อยู่ตามบ้าน มีการมองหาทางที่จะสร้าง Broadband โดย HdyGrial ได้นำเสนอ 2 แนวคิดคือ
1. FTTH (Fiber To The Home)ไปยังบ้านลูกค้าโดยตรงเพื่อรองรับ เสียง VDO และ Data ซึ่งเรียกว่า Triple-play ในสายสัญญาณเส้นทางเดียวกันแต่เนื่องจากยังไม่ Clear ส่งผลให้เกิดความคิดแข่งกัน ซึ่งเกิดความไม่แน่นอนใน Rate ของข้อมูลที่จะส่งให้ลูกค้า
2. นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ เช่น vDSL2 และ WiMax มีความเป็นไปได้มากกว่า แต่ยังไม่แน่นอนในทางปฏิบัติ แต่มีความเป็นไปได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถให้ Bandwidth สูงเทียบเท่า Fiber ทำได้ แต่ vDSL2 และ WiMax ยังให้ Rate ที่สูงกว่าเดิม บางเทคโนโลยีสามารถใชักับ FTTx โดยมองไปข้างหน้ามากที่สุด แต่ก็ยังแพงที่สุดเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Point to Point (P2P Fiber) ไปยังลูกค้าแต่ละคน และยังต้องบำรุงรักษาอุปกรณ์ในการกระจาย Network Active นั้น ยิ่งกระจายมาก ยิ่งทำให้เสียงค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบัน Passive Optic Network (PON) โดยการกระจายนั้นมีเพียง Passive element เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของ FTTX ค่าบำรุงรักษาในปัจจุบันมากจากการบำรุงรักษาเครือข่าย Copper ซึ่จะถูกลงจากการออกแบบที่ดี
เทคโนโลยีที่ใช้ใน FTTH ในรูปแบบ PON Passive Optic Network นั้น สรุปได้ดังนี้
1. BPON และ GPON เทคโนโลยีนี้ใช้พื้นฐาน Fame ข้อมูลในรูปแบบ ATM Cell-Base โดยชื่อแรกที่ให้กำเนิดคือ ATM PON (APON) และถูกเปลี่ยนในเวลาต่อมาเป็น Broadband PON (BPON) โดยที่ BPON นั้นให้ความสำคัญกับการไม่จำกัดจำนวน ATM Traffic โดยมีความเร็วสูงสุดคือ 622 Mbps
2. GPON เทคโนโลยีที่ได้พัฒนาต่อมาโดย IEEE และมีมาตรฐานออกมาคือ IEEE8.2.3ah โดยใช้พื้นฐานการทำงานของ Ethernet โดยพัฒนาความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นโดยอยู่ที่ 1.25 Gbps
3. DWM-PON เป็นเทคโนโลยีแบ่งคลื่นความยาวของแสงในการแบ่งกระจายไปยังเครื่องปลายทาง ซึ่งข้อดีคือ มีความเร็วสูงสามารถรองรับได้มากกว่า 1.25 Gbps แต่ข้อจำกัด คือสามารถกระจายไปยังเครื่องลูกจข่ายได้ไม่เกิน 10 เครื่อง ในแต่ละเครือข่าย อีกทั้งอุปกรณ์ยังมีราคาแพงมาก
ซึ่งได้นำเสนอการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเดิม กับ ข้อดีของ DWM-PON ซึ่งสามารถรองรับความเร็วได้ในระดับดีเยี่ยม และยังสามารถใช้โครงข่ายเดิม ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการกระจายโครงข่ายไปยังเครื่อง User ได้
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น